251130:0000 1.4.5 Update Backend&Frontend Plan

This commit is contained in:
2025-11-30 01:38:15 +07:00
parent a78c9941be
commit eff0169c21
3 changed files with 528 additions and 400 deletions

View File

@@ -111,15 +111,25 @@
### **2.4 Business Logic & Consistency (ปรับปรุง):**
- **2.4.1 Unified Workflow Engine (หลัก):** ระบบการเดินเอกสารทั้งหมด (Correspondence, RFA, Circulation) ต้อง ใช้ Engine กลางเดียวกัน โดยกำหนด Logic ผ่าน Workflow DSL (JSON Configuration) แทนการเขียน Hard-coded ลงในตาราง
- **2.4.1 Unified Workflow Engine (หลัก):**
- **2.4.2 Separation of Concerns:** Module ต่างๆ (RFA, Correspondence) จะเก็บเฉพาะข้อมูลของเอกสาร (Data) ส่วนสถานะและการเปลี่ยนสถานะ (State Transition) จะถูกจัดการโดย Workflow Engine
- ระบบการเดินเอกสารทั้งหมด (Correspondence, RFA, Circulation) ต้อง ใช้ Engine กลางเดียวกัน โดยกำหนด Logic ผ่าน Workflow DSL (JSON Configuration) แทนการเขียน Hard-coded ลงในตาราง
- Workflow Versioning (เพิ่ม): ระบบต้องรองรับการกำหนด Version ของ Workflow Definition โดยเอกสารที่เริ่มกระบวนการไปแล้ว (In-progress instances) จะต้องใช้ Workflow Version เดิม จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการ หรือได้รับคำสั่ง Migrate จาก Admin เพื่อป้องกันความขัดแย้งของ State
- **2.4.3 Idempotency & Locking:** ใช้กลไกเดิมในการป้องกันการทำรายการซ้ำ
- **2.4.2 Separation of Concerns:**
- **2.4.4 Optimistic Locking (ใหม่):** ใช้ Version Column ใน Database ควบคู่กับ Redis Lock สำหรับการสร้างเลขที่เอกสาร เพื่อเป็น Safety Net ชั้นสุดท้าย
- Module ต่างๆ (Correspondence, RFA, Circulation) จะเก็บเฉพาะข้อมูลของเอกสาร (Data) ส่วนสถานะและการเปลี่ยนสถานะ (State Transition) จะถูกจัดการโดย Workflow Engine
- **2.4.5** **จะไม่มีการใช้ SQL Triggers** เพื่อป้องกันตรรกะซ่อนเร้น (Hidden Logic) และความซับซ้อนในการดีบัก
- **2.4.3 Idempotency & Locking:**
- ใช้กลไกเดิมในการป้องกันการทำรายการซ้ำ
- **2.4.4 Optimistic Locking (ใหม่):**
- ใช้ Version Column ใน Database ควบคู่กับ Redis Lock สำหรับการสร้างเลขที่เอกสาร เพื่อเป็น Safety Net ชั้นสุดท้าย
- **2.4.5** **จะไม่มีการใช้ SQL Triggers**
- เพื่อป้องกันตรรกะซ่อนเร้น (Hidden Logic) และความซับซ้อนในการดีบัก
### **2.5 Data Migration และ Schema Versioning:**
@@ -150,117 +160,118 @@
### **3.2. การจัดการเอกสารโต้ตอบ (Correspondence Management)**
- 3.2.1. วัตถุประสงค์: เอกสารโต้ตอบ (correspondences) ระหว่างองกรณื-องกรณ์ ภายใน โครงการ (Projects) และระหว่าง องค์กร-องค์กร ภายนอก โครงการ (Projects), รองรับ To (ผู้รับหลัก) และ CC (ผู้รับสำเนา) หลายองค์กร
- 3.2.2. ประเภทเอกสาร: ระบบต้องรองรับเอกสารรูปแบบ ไฟล์ PDF หลายประเภท (Types) เช่น จดหมาย (Letter), อีเมล์ (Email), Request for Information (RFI), และสามารถเพิ่มประเภทใหม่ได้ในภายหลัง
- 3.2.1. วัตถุประสงค์:
- เอกสารโต้ตอบ (correspondences) ระหว่างองค์กรณ์-องค์กรณ์ ภายใน โครงการ (Projects) และระหว่าง องค์กรณ์-องค์กรณ์ ภายนอก โครงการ (Projects), รองรับ To (ผู้รับหลัก) และ CC (ผู้รับสำเนา) หลายองค์กรณ์
- 3.2.2. ประเภทเอกสาร:
- ระบบต้องรองรับเอกสารรูปแบบ ไฟล์ PDF, ZIP
- เอกสารโต้ตอบ (Correspondence) สามารถมีได้หลายประเภท (Types) เช่น จดหมาย (Letter), อีเมล์ (Email), Request for Information (RFI), รวมถึง เอกสารขออนุมัติ (RFA) แต่ละ revision และสามารถเพิ่มประเภทใหม่ได้ในภายหลัง
- 3.2.3. การสร้างเอกสาร (Correspondence):
- ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ (เช่น Document Control) สามารถสร้างเอกสารรอไว้ในสถานะ ฉบับร่าง" (Draft) ได้ ซึ่งผู้ใช้งานต่างองค์กรจะมองไม่เห็น
- เมื่อกด "Submitted" แล้ว การแก้ไข, ถอนเอกสารกลับไปสถานะ Draft, หรือยกเลิก (Cancel) จะต้องทำโดยผู้ใช้ระดับ Admin ขึ้นไป พร้อมระบุเหตุผล
- 3.2.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม:
- เอกสารสามารถอ้างถึง (Reference) เอกสารฉบับก่อนหน้าได้หลายฉบับ
- สามารถกำหนด Tag ได้หลาย Tag เพื่อจัดกลุ่มและใช้ในการค้นหาขั้นสูง
- 3.2.5. Correspondence Routing & Workflow
- 3.2.5.1 Routing Templates (แม่แบบการส่งต่อ)
- ผู้ดูแลระบบต้องสามารถสร้างแม่แบบการส่งต่อได้
- แม่แบบสามารถเป็นแบบทั่วไป (ใช้ได้ทุกโครงการ) หรือเฉพาะโครงการ
- แต่ละแม่แบบประกอบด้วยลำดับขั้นตอนการส่งต่อ
- การส่งจาก Originator -> Organization 1 -> Organization 2 -> Organization 3 แล้วส่งผลกลับตามลำดับเดิม (โดยถ้า องกรณ์ใดใน Wouting ให้ส่งกลับ ก็สามารถส่งผลกลับตามลำดับเดิมโดยไม่ต้องรอให้ถึง องกรณืในลำดับถัดไป)
- 3.2.5.2 Routing Steps (ขั้นตอนการส่งต่อ) แต่ละขั้นตอนในแม่แบบต้องกำหนด:
- **ลำดับขั้นตอน** (Sequence)
- **องค์กรผู้รับ** (To Organization)
- **วัตถุประสงค์** (Purpose): เพื่ออนุมัติ (FOR_APPROVAL), เพื่อตรวจสอบ (FOR_REVIEW), เพื่อทราบ (FOR_INFORMATION), เพื่อดำเนินการ (FOR_ACTION)
- **ระยะเวลาที่คาดหวัง** (Expected Duration)
- 3.2.5.3 Actual Routing Execution (การส่งต่อจริง) เมื่อสร้างเอกสารและเลือกใช้แม่แบบ ระบบต้อง:
- สร้างลำดับการส่งต่อตามแม่แบบ
- ติดตามสถานะของแต่ละขั้นตอน: ส่งแล้ว (SENT), กำลังดำเนินการ (IN_PROGRESS), ดำเนินการแล้ว (ACTIONED), ส่งต่อแล้ว (FORWARDED), ตอบกลับแล้ว (REPLIED)
- ระบุวันครบกำหนด (Due Date) สำหรับแต่ละขั้นตอน
- บันทึกผู้ดำเนินการและเวลาที่ดำเนินการ
- 3.2.5.4 Routing Flexibility (ความยืดหยุ่น)
- สามารถข้ามขั้นตอนได้ในกรณีพิเศษ (โดยผู้มีสิทธิ์)
- สามารถส่งกลับขั้นตอนก่อนหน้าได้
- สามารถเพิ่มความคิดเห็นในแต่ละขั้นตอน
- แจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อถึงขั้นตอนใหม่หรือใกล้ครบกำหนด
- 3.2.6. การจัดการ: มีการจัดการอย่างน้อยดังนี้
- สามารถกำหนดวันแล้วเสร็จ (Deadline) สำหรับผู้รับผิดชอบของ องกรณ์ ที่เป็นผู้รับได้
- มีระบบแจ้งเตือน ให้ผู้รับผิดชอบขององกรณ์ที่เป็น ผู้รับ/ผู้ส่ง ทราบ เมื่อมีเอกสารใหม่ หรือมีการเปลี่ยนสถานะ
- 3.2.5. Workflow (Unified Workflow):
- ระบบต้องรองรับ Workflow ที่เป็นแบบ Unified Workflow
### **3.3. การจัดกาแบบคู่สัญญา (Contract Drawing)**
### **3.3. การจัดการเอกสาขออนุมัติ (Request for Approval / RFA)**
- 3.3.1. วัตถุประสงค์: แบบคู่สัญญา (Contract Drawing) ใช้เพื่ออ้างอิงและใช้ในการตรวจสอบ
- 3.3.2. ประเภทเอกสาร: ไฟล์ PDF
- 3.3.3. การสร้างเอกสาร: ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ สามารถสร้างและแก้ไขได้
- 3.3.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: ใช้สำหรับอ้างอิง ใน Shop Drawings, มีการจัดหมวดหมู่ของ Contract Drawing
- 3.3.1. วัตถุประสงค์:
- เอกสารขออนุมัติ (RFA) ภายใน โครงการ (Projects)
- 3.3.2. ประเภทเอกสาร:
- ระบบต้องรองรับเอกสารรูปแบบ ไฟล์ PDF
- เอกสารขออนุมัติ (RFA) สามารถมีได้หลาย revision
- มีประถทของเอกสาร ได้หลายประเภท (RFA Types) และสามารถเพิ่มประเภทใหม่ได้ในภายหลัง
- 3.3.3. การสร้างเอกสาร:
- ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ (เช่น Document Control) สามารถสร้างเอกสารขออนุมัติ (RFA) รอไว้ในสถานะ ฉบับร่าง" (Draft) ได้ ซึ่งผู้ใช้งานต่างองค์กรจะมองไม่เห็น
- เมื่อกด "Submitted" แล้ว การแก้ไข, ถอนเอกสารกลับไปสถานะ Draft, หรือยกเลิก (Cancel) จะต้องทำโดยผู้ใช้ระดับ Admin ขึ้นไป พร้อมระบุเหตุผล
- 3.3.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม:
- RFA สามารถอ้างถึง (Reference) แบบก่อสร้าง (Shop Drawing) ได้หลายฉบับ
- 3.3.5. Workflow (Unified Workflow):
- ระบบต้องรองรับ Workflow ที่เป็นแบบ Unified Workflow ซึ่งจะมีสถานะและกิจกรรมที่ไม่เหมือนกันกับเอกสารโต้ตอบ (Correspondence)
### **3.4. การจัดกาแบบก่อสร้าง (Shop Drawing)**
### **3.4. การจัดกาแบบคู่สัญญา (Contract Drawing)**
- 3.4.1. วัตถุประสงค์: แบบก่อสร้าง (Shop Drawing) ใช้เในการตรวจสอบ โดยจัดส่งด้วย Request for Approval (RFA)
- 3.4.1. วัตถุประสงค์: แบบคู่สัญญา (Contract Drawing) ใช้เพื่ออ้างอิงและใช้ในการตรวจสอบ
- 3.4.2. ประเภทเอกสาร: ไฟล์ PDF
- 3.4.3. การสร้างเอกสาร: ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ สามารถสร้างและแก้ไขได้
- 3.4.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: ช้สำหรับอ้างอิง ใน Shop Drawings, มีการจัดหมวดหมู่ของ Shop Drawings
- 3.4.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: ช้สำหรับอ้างอิง ใน Shop Drawings, มีการจัดหมวดหมู่ของ Contract Drawing
### **3.5. การจัดการ Workflow (Unified Workflow)**
### **3.5. การจัดกาแบบก่อสร้าง (Shop Drawing)**
- 3.5.1 Workflow Definition:
- 3.5.1. วัตถุประสงค์: แบบก่อสร้าง (Shop Drawing) ใช้เในการตรวจสอบ โดยจัดส่งด้วย Request for Approval (RFA)
- 3.5.2. ประเภทเอกสาร: ไฟล์ PDF, DWG, ZIP
- 3.5.3. การสร้างเอกสาร: ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ สามารถสร้างและแก้ไขได้ โดยผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ (เช่น Document Control) สามารถสร้างเอกสารรอไว้ในสถานะ ฉบับร่าง" (Draft) ได้ ซึ่งผู้ใช้งานต่างองค์กรจะมองไม่เห็น
- 3.5.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: ใช้สำหรับอ้างอิง ใน RFA, มีการจัดหมวดหมู่ของ Shop Drawings โดยทุก แบบก่อสร้าง (Shop Drawing) แต่ละ revision ต้องมี RFA ได้เพียง 1 ฉบับ
- Admin ต้องสามารถสร้าง/แก้ไข Workflow Rule ได้ผ่านหน้าจอ UI (DSL Editor) ร
- องรับการกำหนด State, Transition, Required Role, Condition (JS Expression)
### **3.6. การจัดการ Workflow (Unified Workflow)**
- 3.5.2 Workflow Execution:
- 3.6.1 Workflow Definition:
- Admin ต้องสามารถสร้าง/แก้ไข Workflow Rule ได้ผ่านหน้าจอ UI (DSL Editor)
- รองรับการกำหนด State, Transition, Required Role, Condition (JS Expression)
- 3.6.2 Workflow Execution:
- ระบบต้องรองรับการสร้าง Instance ของ Workflow ผูกกับเอกสาร (Polymorphic)
- รองรับการเปลี่ยนสถานะ (Action) เช่น Approve, Reject, Comment, Return
- Auto-Action: รองรับการเปลี่ยนสถานะอัตโนมัติเมื่อครบเงื่อนไข (เช่น Review ครบทุกคน)
- 3.5.3 Flexibility:
- 3.6.3 Flexibility:
- รองรับ Parallel Review (ส่งให้หลายคนตรวจพร้อมกัน)
- รองรับ Conditional Flow (เช่น ถ้ายอดเงิน > X ให้เพิ่มผู้อนุมัติ)
- 3.5.4 Workflow การอนุมัติ:
- ต้องรองรับกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อนและเป็นลำดับ เช่น ส่งจาก Originator -> Organization 1 -> Organization 2 -> Organization 3 แล้วส่งผลกลับตามลำดับเดิม (โดยถ้า องกรณ์ใดใน Workflow ให้ส่งกลับ ก็สามารถส่งผลกลับตามลำดับเดิมโดยไม่ต้องรอให้ถึง องกรณืในลำดับถัดไป)
- 3.6.4 Workflow การอนุมัติ:
- รองรับกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อนและเป็นลำดับ เช่น ส่งจาก Originator -> Organization 1 -> Organization 2 -> Organization 3 แล้วส่งผลกลับตามลำดับเดิม (โดยถ้า องกรณ์ใดใน Workflow ให้ส่งกลับ ก็สามารถส่งผลกลับตามลำดับเดิมโดยไม่ต้องรอให้ถึง องกรณืในลำดับถัดไป)
- 3.6.5 การจัดการ:
- 3.5.5 การจัดการ:
- สามารถกำหนดวันแล้วเสร็จ (Deadline) สำหรับผู้รับผิดชอบของ องกรณ์ ที่อยู่ใน Workflow ได้
- มีระบบแจ้งเตือน ให้ผู้รับผิดชอบของ องกรณ์ ที่อยู่ใน Workflow ทราบ เมื่อมี RFA ใหม่ หรือมีการเปลี่ยนสถานะ
- สามารถข้ามขั้นตอนได้ในกรณีพิเศษ (โดยผู้มีสิทธิ์)
- สามารถส่งกลับขั้นตอนก่อนหน้าได้
### **3.6.การจัดการเอกสารนำส่ง (Transmittals)**
### **3.7.การจัดการเอกสารนำส่ง (Transmittals)**
- 3.6.1. วัตถุประสงค์: เอกสารนำส่ง ใช้สำหรับ นำส่ง Request for Approval (RFAS) หลายฉบับ ไปยังองค์กรอื่น
- 3.6.2. ประเภทเอกสาร: ไฟล์ PDF
- 3.6.3. การสร้างเอกสาร: ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ สามารถสร้างและแก้ไขได้
- 3.6.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: เอกสารนำส่ง เป็นส่วนหนึ่งใน Correspondence
### **3.7. ใบเวียนเอกสาร (Circulation Sheet)**
- 3.7.1. วัตถุประสงค์: การสื่อสาร เอกสาร (Correspondence) ทุกฉบับ จะมีใบเวียนเอกสารเพื่อควบคุมและมอบหมายงานภายในองค์กร (สามารถดูและแก้ไขได้เฉพาะคนในองค์กร)
- 3.7.1. วัตถุประสงค์: เอกสารนำส่ง ใช้สำหรับ นำส่ง Request for Approval (RFAS) หลายฉบับ ไปยังองค์กรอื่น
- 3.7.2. ประเภทเอกสาร: ไฟล์ PDF
- 3.7.3. การสร้างเอกสาร: ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในองค์กรนั้น สามารถสร้างและแก้ไขได้
- 3.7.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: การระบุผู้รับผิดชอบ:
- 3.7.3. การสร้างเอกสาร: ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ สามารถสร้างและแก้ไขได้
- 3.7.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: เอกสารนำส่ง เป็นส่วนหนึ่งใน Correspondence
### **3.8.ใบเวียนเอกสาร (Circulation Sheet)**
- 3.8.1. วัตถุประสงค์: การสื่อสาร เอกสาร (Correspondence) ทุกฉบับ จะมีใบเวียนเอกสารเพื่อควบคุมและมอบหมายงานภายในองค์กร (สามารถดูและแก้ไขได้เฉพาะคนในองค์กร)
- 3.8.2. ประเภทเอกสาร: ไฟล์ PDF
- 3.8.3. การสร้างเอกสาร: ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในองค์กรนั้น สามารถสร้างและแก้ไขได้
- 3.8.4. การอ้างอิงและจัดกลุ่ม: การระบุผู้รับผิดชอบ:
- ผู้รับผิดชอบหลัก (Main): มีได้หลายคน
- ผู้ร่วมปฏิบัติงาน (Action): มีได้หลายคน
- ผู้ที่ต้องรับทราบ (Information): มีได้หลายคน
- 3.7.5. การติดตามงาน:
- 3.8.5. การติดตามงาน:
- สามารถกำหนดวันแล้วเสร็จ (Deadline) สำหรับผู้รับผิดชอบประเภท Main และ Action ได้
- มีระบบแจ้งเตือนเมื่อมี Circulation ใหม่ และแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนถึงวันแล้วเสร็จ
- สามารถปิด Circulation ได้เมื่อดำเนินการตอบกลับไปยังองค์กรผู้ส่ง (Originator) แล้ว หรือ รับทราบแล้ว (For Information)
### **3.8. ประวัติการแก้ไข (Revisions):** ระบบจะเก็บประวัติการสร้างและแก้ไข เอกสารทั้งหมด
### **3.9. ประวัติการแก้ไข (Revisions):** ระบบจะเก็บประวัติการสร้างและแก้ไข เอกสารทั้งหมด
### **3.9. การจัดเก็บไฟล์ (File Handling - ปรับปรุงใหญ่)**
### **3.10. การจัดเก็บไฟล์ (File Handling - ปรับปรุงใหญ่)**
- **3.9.1 Two-Phase Storage Strategy:**
- **3.10.1 Two-Phase Storage Strategy:**
1. **Phase 1 (Upload):** ไฟล์ถูกอัปโหลดเข้าโฟลเดอร์ `temp/` และได้รับ `temp_id`
2. **Phase 2 (Commit):** เมื่อ User กด Submit ฟอร์มสำเร็จ ระบบจะย้ายไฟล์จาก `temp/` ไปยัง `permanent/{YYYY}/{MM}/` และบันทึกลง Database ภายใน Transaction เดียวกัน
3. **Cleanup:** มี Cron Job ลบไฟล์ใน `temp/` ที่ค้างเกิน 24 ชม. (Orphan Files)
- **3.9.2 Security:**
- **3.10.2 Security:**
- Virus Scan (ClamAV) ก่อนย้ายเข้า Permanent
- Whitelist File Types: PDF, DWG, DOCX, XLSX, ZIP
- Max Size: 50MB
- Access Control: ตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน Junction Table ก่อนให้ Download Link
- **3.9.3 ความปลอดภัยของการจัดเก็บไฟล์:**
- **3.10.3 ความปลอดภัยของการจัดเก็บไฟล์:**
- ต้องมีการ scan virus สำหรับไฟล์ที่อัปโหลดทั้งหมด โดยใช้ ClamAV หรือบริการ third-party
- จำกัดประเภทไฟล์ที่อนุญาต: PDF, DWG, DOCX, XLSX, ZIP (ต้องระบุรายการที่ชัดเจน)
- ขนาดไฟล์สูงสุด: 50MB ต่อไฟล์
@@ -269,92 +280,139 @@
- Download links ต้องมี expiration time (default: 24 ชั่วโมง)
- ต้องบันทึก audit log ทุกครั้งที่มีการดาวน์โหลดไฟล์สำคัญ
### **3.10. การจัดการเลขที่เอกสาร (Document Numbering - ปรับปรุง)**
### **3.11. การจัดการเลขที่เอกสาร (Document Numbering - ปรับปรุง)**
- 3.10.1. ระบบต้องสามารถสร้างเลขที่เอกสาร (Running Number) ได้โดยอัตโนมัติและยืดหยุ่นสูง
- 3.10.2. **Logic การนับเลข (Counter Logic):** การนับเลขจะต้องรองรับการแยกตาม Key ที่ซับซ้อนขึ้น:
- 3.11.1. ระบบต้องสามารถสร้างเลขที่เอกสาร (Running Number) ได้โดยอัตโนมัติและยืดหยุ่นสูง
- 3.11.2. Logic การนับเลข (Counter Logic): การนับเลขจะต้องรองรับการแยกตาม Key ที่ซับซ้อนขึ้น:
- **Project** + **Originator** + **Type** + **Discipline** (ถ้ามี) + **Sub-Type** (ถ้ามี) + **Year**
- 3.10.3. **Format Template:** รองรับการกำหนดรูปแบบด้วย **Token Replacement** เช่น:
- `{ORG}-{TYPE}-{DISCIPLINE}-{SEQ:4}-{REV}` -> `TEAM-RFA-STR-0001-A`
- 3.11.3. Format Template:
- รองรับการกำหนดรูปแบบด้วย Token Replacement เช่น:
- `{ORG}-{TYPE}-{DISCIPLINE}-{SEQ:4}-{REV}` -> `TEAM-RFA-STR-0001-A`
- รองรับ Token: `{PROJECT}`, `{ORG}`, `{TYPE}`, `{DISCIPLINE}`, `{SUBTYPE}`, `{SUBTYPE_NUM}`, `{YEAR}`, `{YEAR_SHORT}`, `{SEQ:n}`
- 3.10.4. **Transmittal Logic:** รองรับเงื่อนไขพิเศษสำหรับ Transmittal ที่เลขอาจเปลี่ยนตามผู้รับ (To Owner vs To Contractor)
- 3.10.5. **กลไกความปลอดภัย:** ยังคงใช้ Redis Distributed Lock และ Optimistic Locking เพื่อป้องกันเลขซ้ำหรือข้าม
- 3.10.6. ต้องมี retry mechanism และ fallback strategy เมื่อการ generate เลขที่เอกสารล้มเหลว
- 3.11.4. Transmittal Logic: รองรับเงื่อนไขพิเศษสำหรับ Transmittal ที่เลขอาจเปลี่ยนตามผู้รับ (To Owner vs To Contractor)
- 3.11.5. กลไกความปลอดภัย: ยังคงใช้ Redis Distributed Lock และ Optimistic Locking เพื่อป้องกันเลขซ้ำหรือข้าม
- 3.11.6. ต้องมี retry mechanism และ fallback strategy เมื่อการ generate เลขที่เอกสารล้มเหลว
- 3.11.7 Fallback Logic (เพิ่ม):
- กรณีที่เอกสารประเภทนั้นไม่มี discipline_id หรือ sub_type_id (เป็นค่า NULL หรือไม่ระบุ) ให้ระบบใช้ค่า Default (เช่น 0) ในการจัดกลุ่ม Counter เพื่อป้องกัน Error และรับประกันความถูกต้องของ Running Number (Uniqueness Guarantee)
- Scenario 1: Redis Unavailable
- Fallback เป็น database-only locking (pessimistic lock)
- Log warning และแจ้ง ops team
- ระบบยังใช้งานได้แต่ performance ลดลง
- Scenario 2: Lock Acquisition Timeout
- Retry 5 ครั้งด้วย exponential backoff (1s, 2s, 4s, 8s, 16s)
- หลัง 5 ครั้ง: Return error 503 "Service Temporarily Unavailable"
- Frontend แสดง user-friendly message: "ระบบกำลังยุ่ง กรุณาลองใหม่ภายหลัง"
- Scenario 3: Version Conflict After Lock
- Retry transaction อีก 2 ครั้ง
- หากยังล้มเหลว: Log error พร้อม context และ return 409 Conflict
- Frontend แสดง user-friendly message: "เลขที่เอกสารถูกเปลี่ยน กรุณาลองใหม่"
- Monitoring:
- Alert ถ้า lock acquisition failures > 5% ใน 5 นาที
- Dashboard แสดง lock wait time percentiles
### **3.11 การจัดการ JSON Details (JSON & Performance - ปรับปรุง)**
### **3.12. การจัดการ JSON Details (JSON & Performance - ปรับปรุง)**
- **3.11.1 วัตถุประสงค์**
- **3.12.1 วัตถุประสงค์**
- จัดเก็บข้อมูลแบบไดนามิกที่เฉพาะเจาะจงกับแต่ละประเภทของเอกสาร
- รองรับการขยายตัวของระบบโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลง database schema
- จัดการ metadata และข้อมูลประกอบสำหรับ correspondence, routing, และ workflows
- **3.11.2 โครงสร้าง JSON Schema**
- **3.12.2 โครงสร้าง JSON Schema**
ระบบต้องมี predefined JSON schemas สำหรับประเภทเอกสารต่างๆ:
- **3.11.2.1 Correspondence Types**
- **GENERIC**: ข้อมูลพื้นฐานสำหรับเอกสารทั่วไป
- **RFI**: รายละเอียดคำถามและข้อมูลทางเทคนิค
- **RFA**: ข้อมูลการขออนุมัติแบบและวัสดุ
- **TRANSMITTAL**: รายการเอกสารที่ส่งต่อ
- **LETTER**: ข้อมูลจดหมายทางการ
- **EMAIL**: ข้อมูลอีเมล
- **3.11.2.2 Rworkflow Types**
- **workflow_definitions**: กฎและเงื่อนไขการส่งต่อ
- **workflow_histories**: สถานะและประวัติการส่งต่อ
- **workflow_instances**: การดำเนินการในแต่ละขั้นตอน
- **3.11.2.3 Audit Types**
- **AUDIT_LOG**: ข้อมูลการตรวจสอบ
- **SECURITY_SCAN**: ผลการตรวจสอบความปลอดภัย
- 3.12.2.1 Correspondence Types
- GENERIC: ข้อมูลพื้นฐานสำหรับเอกสารทั่วไป
- RFI: รายละเอียดคำถามและข้อมูลทางเทคนิค
- RFA: ข้อมูลการขออนุมัติแบบและวัสดุ
- TRANSMITTAL: รายการเอกสารที่ส่งต่อ
- LETTER: ข้อมูลจดหมายทางการ
- EMAIL: ข้อมูลอีเมล
- 3.12.2.2 Rworkflow Types
- workflow_definitions: กฎและเงื่อนไขการส่งต่อ
- workflow_histories: สถานะและประวัติการส่งต่อ
- workflow_instances: การดำเนินการในแต่ละขั้นตอน
- 3.12.2.3 Audit Types
- AUDIT_LOG: ข้อมูลการตรวจสอบ
- SECURITY_SCAN: ผลการตรวจสอบความปลอดภัย
- **3.11.3 Virtual Columns (ใหม่):** สำหรับ Field ใน JSON ที่ต้องใช้ในการค้นหา (Search) หรือจัดเรียง (Sort) บ่อยๆ **ต้องสร้าง Generated Column (Virtual Column)** ใน Database และทำ Index ไว้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- **3.12.3 Virtual Columns (ปรับปรุง):**
- **3.11.4 Validation Rules**
- สำหรับ Field ใน JSON ที่ต้องใช้ในการค้นหา (Search) หรือจัดเรียง (Sort) บ่อยๆ ต้องสร้าง Generated Column (Virtual Column) ใน Database และทำ Index ไว้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- Schema Consistency: Field ที่ถูกกำหนดเป็น Virtual Column ห้าม เปลี่ยนแปลง Key Name หรือ Data Type ใน JSON Schema Version ถัดไป หากจำเป็นต้องเปลี่ยน ต้องมีแผนการ Re-index หรือ Migration ข้อมูลเดิมที่ชัดเจน
- **3.12.4 Validation Rules**
- ต้องมี JSON schema validation สำหรับแต่ละประเภท
- ต้องรองรับ versioning ของ schema
- ต้องมี default values สำหรับ field ที่ไม่บังคับ
- ต้องตรวจสอบ data types และ format ให้ถูกต้อง
- **3.11.5 Performance Requirements**
- **3.12.5 Performance Requirements**
- JSON field ต้องมีขนาดไม่เกิน 50KB
- ต้องรองรับ indexing สำหรับ field ที่ใช้ค้นหาบ่อย
- ต้องมี compression สำหรับ JSON ขนาดใหญ่
- **3.11.6 Security Requirements**
- **3.12.6 Security Requirements**
- ต้อง sanitize JSON input เพื่อป้องกัน injection attacks
- ต้อง validate JSON structure ก่อนบันทึก
- ต้อง encrypt sensitive data ใน JSON fields
### **3.12 ข้อกำหนดพิเศษ**
- 3.12.7 JSON Schema Migration Strategy (เพิ่มเติม)
สำหรับ Schema Breaking Changes:
- **ผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์ระดับสูง (Global) หรือผู้ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ**
- สามารถเลือก **สร้างในนามองค์กร (Create on behalf of)** ได้ เพื่อให้สามารถออกเลขที่เอกสาร (Running Number) ขององค์กรอื่นได้โดยไม่ต้องล็อกอินใหม่
- Phase 1 - Add New Column
ALTER TABLE correspondence_revisions
ADD COLUMN ref_project_id_v2 INT GENERATED ALWAYS AS
(JSON_UNQUOTE(JSON_EXTRACT(details, '$.newProjectIdPath'))) VIRTUAL;
- Phase 2 - Backfill Old Records
- ใช้ background job แปลง JSON format เก่าเป็นใหม่
- Update `details` JSON ทีละ batch (1000 records)
- Phase 3 - Switch Application Code
- Deploy code ที่ใช้ path ใหม่
- Phase 4 - Remove Old Column
- หลังจาก verify แล้วว่าไม่มี error
- Drop old virtual column
- สำหรับ Non-Breaking Changes
- เพิ่ม optional field ใน schema
- Old records ที่ไม่มี field = ใช้ default value
### **3.13. ข้อกำหนดพิเศษ**
- ผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์ระดับสูง (Global) หรือผู้ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
- สามารถเลือก สร้างในนามองค์กร (Create on behalf of) ได้ เพื่อให้สามารถออกเลขที่เอกสาร (Running Number) ขององค์กรอื่นได้โดยไม่ต้องล็อกอินใหม่
- สามารถทำงานแทนผู้ใช้งานอื่นได้ Routing & Workflow ของ Correspondence, RFA, Circulation Sheet
### 3.13. การจัดการข้อมูลหลักขั้นสูง (Admin Panel for Master Data)
### **3.14. การจัดการข้อมูลหลักขั้นสูง (Admin Panel for Master Data)**
- 3.13.1. **Disciplines Management:** Admin ต้องสามารถ เพิ่ม/ลบ/แก้ไข สาขางาน (Disciplines) แยกตามสัญญา (Contract) ได้
- 3.13.2. **Sub-Type Mapping:** Admin ต้องสามารถกำหนด Correspondence Sub-types และ Mapping รหัสตัวเลข (เช่น MAT = 11) ได้
- 3.13.3. **Numbering Format Configuration:** Admin ต้องมี UI สำหรับตั้งค่า Format Template ของแต่ละ Project/Type ได้โดยไม่ต้องแก้โค้ด
- 3.14.1. Disciplines Management: Admin ต้องสามารถ เพิ่ม/ลบ/แก้ไข สาขางาน (Disciplines) แยกตามสัญญา (Contract) ได้
- 3.14.2. Sub-Type Mapping: Admin ต้องสามารถกำหนด Correspondence Sub-types และ Mapping รหัสตัวเลข (เช่น MAT = 11) ได้
- 3.14.3. Numbering Format Configuration: Admin ต้องมี UI สำหรับตั้งค่า Format Template ของแต่ละ Project/Type ได้โดยไม่ต้องแก้โค้ด
## **🔐 4. ข้อกำหนดด้านสิทธิ์และการเข้าถึง (Access Control Requirements)**
### **4.1. ภาพรวม:** ผู้ใช้และองค์กรสามารถดูและแก้ไขเอกสารได้ตามสิทธิ์ที่ได้รับ โดยระบบสิทธิ์จะเป็นแบบ Role-Based Access Control (RBAC)
### **4.1. ภาพรวม:**
### **4.2. ลำดับชั้นของสิทธิ์ (Permission Hierarchy)**
- ผู้ใช้และองค์กรสามารถดูและแก้ไขเอกสารได้ตามสิทธิ์ที่ได้รับ โดยระบบสิทธิ์จะเป็นแบบ Role-Based Access Control (RBAC)
### **4.2. ลำดับชั้นของสิทธิ์ (Permission Hierarchy):**
- Global: สิทธิ์สูงสุดของระบบ
- Organization: สิทธิ์ภายในองค์กร เป็นสิทธิ์พื้นฐานของผู้ใช้
- Project: สิทธิ์เฉพาะในโครงการ จะถูกพิจารณาเมื่อผู้ใช้อยู่ในโครงการนั้น
- Contract: สิทธิ์เฉพาะในสัญญา จะถูกพิจารณาเมื่อผู้ใช้อยู่ในสัญญานั้น (สัญญาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ)
กฎการบังคับใช้: เมื่อตรวจสอบสิทธิ์ ระบบจะพิจารณาสิทธิ์จากทุกระดับที่ผู้ใช้มี และใช้ สิทธิ์ที่มากที่สุด (Most Permissive) เป็นตัวตัดสิน
### **4.3. กฎการบังคับใช้:**
ตัวอย่าง: ผู้ใช้ A เป็น Viewer ในองค์กร แต่ถูกมอบหมายเป็น Editor ในโครงการ X เมื่ออยู่ในโครงการ X ผู้ใช้ A จะมีสิทธิ์แก้ไขได้
- เมื่อตรวจสอบสิทธิ์ ระบบจะพิจารณาสิทธิ์จากทุกระดับที่ผู้ใช้มี และใช้ สิทธิ์ที่มากที่สุด (Most Permissive) เป็นตัวตัดสิน
- ตัวอย่าง: ผู้ใช้ A เป็น Viewer ในองค์กร แต่ถูกมอบหมายเป็น Editor ในโครงการ X เมื่ออยู่ในโครงการ X ผู้ใช้ A จะมีสิทธิ์แก้ไขได้
### **4.3. การกำหนดบทบาท (Roles) และขอบเขต (Scope)**
### **4.4. การกำหนดบทบาท (Roles) และขอบเขต (Scope):**
| บทบาท (Role) | ขอบเขต (Scope) | คำอธิบาย | สิทธิ์หลัก (Key Permissions) |
| :------------------- | :------------- | :---------------------- | :------------------------------------------------------------------------------------- |
@@ -366,31 +424,31 @@
| **Project Manager** | Project | ผู้จัดการโครงการ | จัดการสมาชิกในโครงการ (เพิ่ม/ลบ/มอบบทบาท), สร้าง/จัดการสัญญาในโครงการ, ดูรายงานโครงการ |
| **Contract Admin** | Contract | ผู้ดูแลสัญญา | จัดการสมาชิกในสัญญา, สร้าง/จัดการข้อมูลหลักเฉพาะสัญญา (ถ้ามี), อนุมัติเอกสารในสัญญา |
### **4.4. Token Management (ปรับปรุง)**
### **4.5 . Token Management (ปรับปรุง)**
- **Payload Optimization:** ใน JWT Access Token ให้เก็บเฉพาะ `userId` และ `scope` ปัจจุบันเท่านั้น
- **Permission Caching:** สิทธิ์ละเอียด (Permissions List) ให้เก็บใน **Redis** และดึงมาตรวจสอบเมื่อ Request เข้ามา เพื่อลดขนาด Token และเพิ่มความเร็ว
### **4.5. กระบวนการเริ่มต้นใช้งาน (Onboarding Workflow) ที่สมบูรณ์**
### **4.6. กระบวนการเริ่มต้นใช้งาน (Onboarding Workflow) ที่สมบูรณ์**
- **4.5.1. สร้างองค์กร (Organization)**
- 4.6.1. สร้างองค์กร (Organization)
- **Superadmin** สร้างองค์กรใหม่ (เช่น บริษัท A)
- **Superadmin** แต่งตั้งผู้ใช้อย่างน้อย 1 คนให้เป็น **Org Admin** หรือ **Document Control** ของบริษัท A
- **4.5.2. เพิ่มผู้ใช้ในองค์กร**
- 4.6.2. เพิ่มผู้ใช้ในองค์กร
- **Org Admin** ของบริษัท A เพิ่มผู้ใช้อื่นๆ (Editor, Viewer) เข้ามาในองค์กรของตน
- **4.5.3. มอบหมายผู้ใช้ให้กับโครงการ (Project)**
- 4.6.3. มอบหมายผู้ใช้ให้กับโครงการ (Project)
- **Project Manager** ของโครงการ X (ซึ่งอาจมาจากบริษัท A หรือบริษัทอื่น) ทำการ "เชิญ" หรือ "มอบหมาย" ผู้ใช้จากองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาในโครงการ X
- ในขั้นตอนนี้ **Project Manager** จะกำหนด **บทบาทระดับโครงการ** (เช่น Project Member, หรืออาจไม่มีบทบาทพิเศษ ให้ใช้สิทธิ์จากระดับองค์กรไปก่อน)
- **4.5.4. เมอบหมายผู้ใช้ให้กับสัญญา (Contract)**
- 4.6.4. เมอบหมายผู้ใช้ให้กับสัญญา (Contract)
- **Contract Admin** ของสัญญา Y (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ X) ทำการเลือกผู้ใช้ที่อยู่ในโครงการ X แล้ว มอบหมายให้เข้ามาในสัญญา Y
- ในขั้นตอนนี้ **Contract Admin** จะกำหนด **บทบาทระดับสัญญา** (เช่น Contract Member) และสิทธิ์เฉพาะที่จำเป็น
- **4.5.5 Security Onboarding:**
- 4.6.5 Security Onboarding:
- ต้องบังคับเปลี่ยน password ครั้งแรกสำหรับผู้ใช้ใหม่
- ต้องมี security awareness training สำหรับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สูง
- ต้องมี process สำหรับการรีเซ็ต password ที่ปลอดภัย
- ต้องบันทึก audit log ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง permissions
### **4.6. การจัดการข้อมูลหลัก (Master Data Management) ที่แบ่งตามระดับ**
### **4.7. การจัดการข้อมูลหลัก (Master Data Management) ที่แบ่งตามระดับ**
| ข้อมูลหลัก | ผู้มีสิทธิ์จัดการ | ระดับ |
| :---------------------------------- | :------------------------------ | :--------------------------------- |
@@ -403,173 +461,199 @@
## **👥 5. ข้อกำหนดด้านผู้ใช้งาน (User Interface & Experience)**
### **5.1. Layout หลัก:** หน้าเว็บใช้รูปแบบ App Shell ที่ประกอบด้วย
### 5.1. Layout หลัก
- Navbar (ส่วนบน): แสดงชื่อระบบ, เมนูผู้ใช้ (Profile), เมนูสำหรับ Document Control/เมนูสำหรับ Admin/Superadmin (จัดการผู้ใช้, จัดการสิทธิ์), และปุ่ม Login/Logout
- Sidebar (ด้านข้าง): เป็นเมนูหลักสำหรับเข้าถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารทั้งหมด เช่น Dashboard, Correspondences, RFA, Drawings
- Main Content Area: พื้นที่สำหรับแสดงเนื้อหาหลักของหน้าที่เลือก
- หน้าเว็บใช้รูปแบบ App Shell ที่ประกอบด้วย
- Navbar (ส่วนบน): แสดงชื่อระบบ, เมนูผู้ใช้ (Profile), เมนูสำหรับ Document Control/เมนูสำหรับ Admin/Superadmin (จัดการผู้ใช้, จัดการสิทธิ์, และอื่นๆ), และปุ่ม Login/Logout
- Sidebar (ด้านข้าง): เป็นเมนูหลักสำหรับเข้าถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารทั้งหมด เช่น Dashboard, Correspondences, RFA, Drawings
- Main Content Area: พื้นที่สำหรับแสดงเนื้อหาหลักของหน้าที่เลือก
### **5.2. หน้า Landing Page:** เป็นหน้าแรกที่แสดงข้อมูลบางส่วนของโครงการสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้ล็อกอิน
### 5.2. หน้า Landing Page
### **5.3. หน้า Dashboard:** เป็นหน้าแรกหลังจากล็อกอิน ประกอบด้วย
- เป็นหน้าแรกที่แสดงข้อมูลบางส่วนของโครงการสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้ล็อกอิน
- การ์ดสรุปภาพรวม (KPI Cards): แสดงข้อมูลสรุปที่สำคัญขององค์กร เช่น จำนวนเอกสาร, งานที่เกินกำหนด
- ตาราง "งานของฉัน" (My Tasks Table): แสดงรายการงานทั้งหมดจาก Circulation ที่ผู้ใช้ต้องดำเนินการ
- Security Metrics: แสดงจำนวน files scanned, security incidents, failed login attempts
### 5.3. หน้า Dashboard
### **5.4. การติดตามสถานะ:** องค์กรสามารถติดตามสถานะเอกสารทั้งของตนเอง (Originator) และสถานะเอกสารที่ส่งมาถึงตนเอง (Recipient)
- เป็นหน้าแรกหลังจากล็อกอิน ประกอบด้วย
- การ์ดสรุปภาพรวม (KPI Cards): แสดงข้อมูลสรุปที่สำคัญขององค์กร เช่น จำนวนเอกสาร, งานที่เกินกำหนด
- ตาราง "งานของฉัน" (My Tasks Table): แสดงรายการงานทั้งหมดจาก Circulation ที่ผู้ใช้ต้องดำเนินการ
- Security Metrics: แสดงจำนวน files scanned, security incidents, failed login attempts
### **5.5. การจัดการข้อมูลส่วนตัว (Profile Page):** ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลส่วนตัวและเปลี่ยนรหัสผ่านของตนเองได้
### 5.4. การติดตามสถานะ
### **5.6. การจัดการเอกสารทางเทคนิค (RFA & Workflow):** ผู้ใช้สามารถดู RFA ในรูปแบบ Workflow ทั้งหมดได้ในหน้าเดียว, ขั้นตอนที่ยังไม่ถึงหรือผ่านไปแล้วจะเป็นรูปแบบ diable, สามารถดำเนินการได้เฉพาะในขั้นตอนที่ได้รับมอบหมายงาน (active) เช่น ตรวจสอบแล้ว เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป, สิทธิ์ Document Control ขึ้นไป สามรถกด ไปยังขั้นตอนต่อไป ได้ทุกขั้นตอน, การย้อนกลับ ไปขั้นตอนก่อนหน้า สามารถทำได้โดย สิทธิ์ Document Control ขึ้นไป
- องค์กรสามารถติดตามสถานะเอกสารทั้งของตนเอง (Originator) และสถานะเอกสารที่ส่งมาถึงตนเอง (Recipient)
### **5.7. การจัดการใบเวียนเอกสาร (Circulation):** ผู้ใช้สามารถดู Circulation ในรูปแบบ Workflow ทั้งหมดได้ในหน้าเดียว,ขั้นตอนที่ยังไม่ถึงหรือผ่านไปแล้วจะเป็นรูปแบบ diable, สามารถดำเนินการได้เฉพาะในขั้นตอนที่ได้รับมอบหมายงาน (active) เช่น ตรวจสอบแล้ว เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป, สิทธิ์ Document Control ขึ้นไป สามรถกด ไปยังขั้นตอนต่อไป ได้ทุกขั้นตอน, การย้อนกลับ ไปขั้นตอนก่อนหน้า สามารถทำได้โดย สิทธิ์ Document Control ขึ้นไป
### 5.5. การจัดการข้อมูลส่วนตัว (Profile Page)
### **5.8. การจัดการเอกสารนำส่ง (Transmittals):** ผู้ใช้สามารถดู Transmittals ในรูปแบบรายการทั้งหมดได้ในหน้าเดียว
- ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลส่วนตัวและเปลี่ยนรหัสผ่านของตนเองได้
### **5.9. ข้อกำหนด UI/UX การแนบไฟล์ (File Attachment UX):**
### 5.6. การจัดการเอกสารทางเทคนิค (RFA)
- ผู้ใช้สามารถดู RFA ในรูปแบบ Workflow Diagram ทั้งหมดได้ในหน้าเดียว
- Interactive History (เพิ่ม): ในแผนภาพ Workflow ผู้ใช้ต้องสามารถ คลิกที่ Node หรือ Step เก่าที่ผ่านมาแล้ว เพื่อดู Audit Log ย่อยของ Step นั้นได้ทันที (เช่น ใครเป็นคนกด Approve, เวลาไหน, มี Comment อะไร) โดยไม่ต้องสลับไปดูใน Tab History แยกต่างหาก
- ขั้นตอนที่ยังไม่ถึงหรือผ่านไปแล้วจะเป็นรูปแบบ disabled
- สามารถดำเนินการได้เฉพาะในขั้นตอนที่ได้รับมอบหมายงาน (active)
- สิทธิ์ Document Control ขึ้นไป สามารถกด "Force Proceed" ไปยังขั้นตอนต่อไปได้ทุกขั้นตอน หรือ "Revert" กลับขั้นตอนก่อนหน้าได้
### 5.7. การจัดการใบเวียนเอกสาร (Circulation)
- ผู้ใช้สามารถดู Circulation ในรูปแบบ Workflow ทั้งหมดได้ในหน้าเดียว,ขั้นตอนที่ยังไม่ถึงหรือผ่านไปแล้วจะเป็นรูปแบบ diable, สามารถดำเนินการได้เฉพาะในขั้นตอนที่ได้รับมอบหมายงาน (active) เช่น ตรวจสอบแล้ว เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป, สิทธิ์ Document Control ขึ้นไป สามรถกด ไปยังขั้นตอนต่อไป ได้ทุกขั้นตอน, การย้อนกลับ ไปขั้นตอนก่อนหน้า สามารถทำได้โดย สิทธิ์ Document Control ขึ้นไป
### 5.8. การจัดการเอกสารนำส่ง (Transmittals)
- ผู้ใช้สามารถดู Transmittals ในรูปแบบรายการทั้งหมดได้ในหน้าเดียว
### 5.9. ข้อกำหนด UI/UX การแนบไฟล์ (File Attachment UX)
- ระบบต้องรองรับการอัปโหลดไฟล์หลายไฟล์พร้อมกัน (Multi-file upload) เช่น การลากและวาง (Drag-and-Drop)
- ในหน้าอัปโหลด (เช่น สร้าง RFA หรือ Correspondence) ผู้ใช้ต้องสามารถกำหนดได้ว่าไฟล์ใดเป็น "เอกสารหลัก" (Main Document เช่น PDF) และไฟล์ใดเป็น "เอกสารแนบประกอบ" (Supporting Attachments เช่น .dwg, .docx, .zip)
- **Security Feedback:** แสดง security warnings สำหรับ file types ที่เสี่ยงหรือ files ที่ fail virus scan
- **File Type Indicators:** แสดง file type icons และ security status
### **5.10 Form & Interaction (ใหม่)**
### 5.10 Form & Interaction
- **Dynamic Form Generator:** ใช้ Component กลางที่รับ JSON Schema แล้ว Render Form ออกมาอัตโนมัติ เพื่อลดความซ้ำซ้อนของโค้ดหน้าบ้าน และรองรับเอกสารประเภทใหม่ๆ ได้ทันที
- **Optimistic Updates:** การเปลี่ยนสถานะ (เช่น กด Approve, กด Read) ให้ UI เปลี่ยนสถานะทันทีให้ผู้ใช้เห็นก่อนรอ API Response (Rollback ถ้า Failed)
### **5.11 Mobile Responsiveness (ใหม่)**
### 5.11 Mobile Responsiveness
- **Table Visualization:** บนหน้าจอมือถือ ตารางข้อมูลที่มีหลาย Column (เช่น Correspondence List) ต้องเปลี่ยนการแสดงผลเป็นแบบ **Card View** อัตโนมัติ
- **Navigation:** Sidebar ต้องเป็นแบบ Collapsible Drawer
### **5.12 Resilience & Offline Support (ใหม่)**
### 5.12 Resilience & Offline Support
- **Auto-Save Draft:** ระบบต้องบันทึกข้อมูลฟอร์มที่กำลังกรอกลง **LocalStorage** อัตโนมัติ เพื่อป้องกันข้อมูลหายกรณีเน็ตหลุดหรือปิด Browser โดยไม่ได้ตั้งใจ
- **State Management:** ใช้ State Management ที่เหมาะสมและไม่ซับซ้อนเกินไป โดยเน้นการใช้ React Query สำหรับ Server State และ React Hook Form สำหรับ Form State
- **Graceful Degradation:** หาก Service รอง (เช่น Search, Notification) ล่ม ระบบหลัก (CRUD) ต้องยังทำงานต่อได้
### 5.13. Secure In-App PDF Viewer (ใหม่)
- 5.13.1 Viewer Capabilities: ระบบต้องมี PDF Viewer ภายในแอปพลิเคชันที่สามารถเปิดดูไฟล์เอกสารหลัก (PDF) ได้ทันทีโดยไม่ต้องดาวน์โหลดลงเครื่อง เพื่อความสะดวกในการตรวจทาน (Review/Approve)
- 5.13.2 Security: การแสดงผลไฟล์ต้อง ห้าม (Disable) การทำ Browser Cache สำหรับไฟล์ Sensitive เพื่อป้องกันการกู้คืนไฟล์จากเครื่อง Client ภายหลัง
- 5.13.3 Performance: ต้องรองรับการส่งข้อมูลแบบ Streaming (Range Requests) เพื่อให้เปิดดูไฟล์ขนาดใหญ่ (เช่น แบบแปลน 50MB+) ได้รวดเร็วโดยไม่ต้องรอโหลดเสร็จทั้งไฟล์
## **🛡️ 6. ข้อกำหนดที่ไม่ใช่ฟังก์ชันการทำงาน (Non-Functional Requirements)**
### **6.1. การบันทึกการกระทำ (Audit Log):** ทุกการกระทำที่สำคัญของผู้ใช้ (สร้าง, แก้ไข, ลบ, ส่ง) จะถูกบันทึกไว้ใน audit_logs เพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง
### 6.1. การบันทึกการกระทำ (Audit Log)
- **6.1.1 ขอบเขตการบันทึก Audit Log:**
- ทุกการกระทำที่สำคัญของผู้ใช้ (สร้าง, แก้ไข, ลบ, ส่ง) จะถูกบันทึกไว้ใน audit_logs เพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง
- ทุกการสร้าง/แก้ไข/ลบ ข้อมูลสำคัญ (correspondences, RFAs, drawings, users, permissions)
- ทุกการเข้าถึงข้อมูล sensitive (user data, financial information)
- ทุกการเปลี่ยนสถานะ workflow (status transitions)
- ทุกการดาวน์โหลดไฟล์สำคัญ (contract documents, financial reports)
- ทุกการเปลี่ยนแปลง permission และ role assignment
- ทุกการล็อกอินที่สำเร็จและล้มเหลว
- ทุกการส่งคำขอ API ที่สำคัญ
- 6.1.1 ขอบเขตการบันทึก Audit Log:
- **6.1.2 ข้อมูลที่ต้องบันทึกใน Audit Log:**
- ผู้ใช้งาน (user_id)
- การกระทำ (action)
- ชนิดของ entity (entity_type)
- ID ของ entity (entity_id)
- ข้อมูลก่อนการเปลี่ยนแปลง (old_values) - สำหรับ update operations
- ข้อมูลหลังการเปลี่ยนแปลง (new_values) - สำหรับ update operations
- IP address
- User agent
- Timestamp
- Request ID สำหรับ tracing
- ทุกการสร้าง/แก้ไข/ลบ ข้อมูลสำคัญ (correspondences, RFAs, drawings, users, permissions)
- ทุกการเข้าถึงข้อมูล sensitive (user data, financial information)
- ทุกการเปลี่ยนสถานะ workflow (status transitions)
- ทุกการดาวน์โหลดไฟล์สำคัญ (contract documents, financial reports)
- ทุกการเปลี่ยนแปลง permission และ role assignment
- ทุกการล็อกอินที่สำเร็จและล้มเหลว
- ทุกการส่งคำขอ API ที่สำคัญ
- 6.1.2 ข้อมูลที่ต้องบันทึกใน Audit Log:
- ผู้ใช้งาน (user_id)
- การกระทำ (action)
- ชนิดของ entity (entity_type)
- ID ของ entity (entity_id)
- ข้อมูลก่อนการเปลี่ยนแปลง (old_values) - สำหรับ update operations
- ข้อมูลหลังการเปลี่ยนแปลง (new_values) - สำหรับ update operations
- IP address
- User agent
- Timestamp
- Request ID สำหรับ tracing
### **6.2. Data Archiving & Partitioning (ใหม่)**
- สำหรับตารางที่มีขนาดใหญ่และโตเร็ว (เช่น `audit_logs`, `notifications`, `correspondence_revisions`) ต้องออกแบบโดยรองรับ **Table Partitioning** (แบ่งตาม Range วันที่ หรือ List) เพื่อประสิทธิภาพในระยะยาว
### **6.3. การค้นหา (Search):** ระบบต้องมีฟังก์ชันการค้นหาขั้นสูง ที่สามารถค้นหาเอกสาร **correspondence**, **rfa**, **shop_drawing**, **contract-drawing**, **transmittal** และ **ใบเวียน (Circulations)** จากหลายเงื่อนไขพร้อมกันได้ เช่น ค้นหาจากชื่อเรื่อง, ประเภท, วันที่, และ Tag
### **6.3. การค้นหา (Search):**
### **6.4. การทำรายงาน (Reporting):** สามารถจัดทำรายงานสรุปแยกประเภทของ Correspondence ประจำวัน, สัปดาห์, เดือน, และปีได้
- ระบบต้องมีฟังก์ชันการค้นหาขั้นสูง ที่สามารถค้นหาเอกสาร **correspondence**, **rfa**, **shop_drawing**, **contract-drawing**, **transmittal** และ **ใบเวียน (Circulations)** จากหลายเงื่อนไขพร้อมกันได้ เช่น ค้นหาจากชื่อเรื่อง, ประเภท, วันที่, และ Tag
### **6.5. ประสิทธิภาพ (Performance):** มีการใช้ Caching กับข้อมูลที่เรียกใช้บ่อย และใช้ Pagination ในตารางข้อมูลเพื่อจัดการข้อมูลจำนวนมาก
### **6.4. การทำรายงาน (Reporting):**
- **6.5.1 ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ:**
- สามารถจัดทำรายงานสรุปแยกประเภทของ Correspondence ประจำวัน, สัปดาห์, เดือน, และปีได้
- **API Response Time:** < 200ms (90th percentile) สำหรับ operation ทั่วไป
- **Search Query Performance:** < 500ms สำหรับการค้นหาขั้นสูง
- **File Upload Performance:** < 30 seconds สำหรับไฟล์ขนาด 50MB
- **Concurrent Users:** รองรับผู้ใช้พร้อมกันอย่างน้อย 100 คน
- **Database Connection Pool:** ขนาดเหมาะสมกับ workload (default: min 5, max 20 connections)
- **Cache Hit Ratio:** > 80% สำหรับ cached data
- **Application Startup Time:** < 30 seconds
### **6.5. ประสิทธิภาพ (Performance):**
- **6.5.2 Caching Strategy:**
- **Master Data Cache:** Roles, Permissions, Organizations, Project metadata (TTL: 1 hour)
- **User Session Cache:** User permissions และ profile data (TTL: 30 minutes)
- **Search Result Cache:** Frequently searched queries (TTL: 15 minutes)
- **File Metadata Cache:** Attachment metadata (TTL: 1 hour)
- **Document Cache:** Frequently accessed document metadata (TTL: 30 minutes)
- **ต้องมี cache invalidation strategy ที่ชัดเจน:**
- Invalidate on update/delete operations
- Time-based expiration
- Manual cache clearance สำหรับ admin operations
- ใช้ Redis เป็น distributed cache backend
- ต้องมี cache monitoring (hit/miss ratios)
- มีการใช้ Caching กับข้อมูลที่เรียกใช้บ่อย และใช้ Pagination ในตารางข้อมูลเพื่อจัดการข้อมูลจำนวนมาก
- 6.5.1 ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ:
- **API Response Time:** < 200ms (90th percentile) สำหรับ operation ทั่วไป
- **Search Query Performance:** < 500ms สำหรับการค้นหาขั้นสูง
- **File Upload Performance:** < 30 seconds สำหรับไฟล์ขนาด 50MB
- **Concurrent Users:** รองรับผู้ใช้พร้อมกันอย่างน้อย 100 คน
- **Database Connection Pool:** ขนาดเหมาะสมกับ workload (default: min 5, max 20 connections)
- **Cache Hit Ratio:** > 80% สำหรับ cached data
- **Application Startup Time:** < 30 seconds
- 6.5.2 Caching Strategy:
- **Master Data Cache:** Roles, Permissions, Organizations, Project metadata (TTL: 1 hour)
- **User Session Cache:** User permissions และ profile data (TTL: 30 minutes)
- **Search Result Cache:** Frequently searched queries (TTL: 15 minutes)
- **File Metadata Cache:** Attachment metadata (TTL: 1 hour)
- **Document Cache:** Frequently accessed document metadata (TTL: 30 minutes)
- **ต้องมี cache invalidation strategy ที่ชัดเจน:**
- Invalidate on update/delete operations
- Time-based expiration
- Manual cache clearance สำหรับ admin operations
- ใช้ Redis เป็น distributed cache backend
- ต้องมี cache monitoring (hit/miss ratios)
- 6.5.3 Frontend Performance:
- **Bundle Size Optimization:** ต้องควบคุมขนาด Bundle โดยรวมไม่เกิน 2MB
- **State Management Efficiency:** ใช้ State Management Libraries อย่างเหมาะสม ไม่เกิน 2 ตัวหลัก
- **Memory Management:** ต้องป้องกัน Memory Leak จาก State ที่ไม่จำเป็น
### **6.6. ความปลอดภัย (Security):**
- มีระบบ Rate Limiting เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ Brute-force
- การจัดการ Secret (เช่น รหัสผ่าน DB, JWT Secret) จะต้องทำผ่าน Environment Variable ของ Docker เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
- 6.6.1 Rate Limiting Strategy:
- **Anonymous Endpoints:** 100 requests/hour ต่อ IP address
- **Authenticated Endpoints:**
- Viewer: 500 requests/hour
- Editor: 1000 requests/hour
- Document Control: 2000 requests/hour
- Admin/Superadmin: 5000 requests/hour
- **File Upload Endpoints:** 50 requests/hour ต่อ user
- **Search Endpoints:** 500 requests/hour ต่อ user
- **Authentication Endpoints:** 10 requests/minute ต่อ IP address
- **ต้องมี mechanism สำหรับยกเว้น rate limiting สำหรับ trusted services**
- ต้องบันทึก log เมื่อมีการ trigger rate limiting
- 6.6.2 Error Handling และ Resilience:
- ต้องมี circuit breaker pattern สำหรับ external service calls
- ต้องมี retry mechanism ด้วย exponential backoff
- ต้องมี graceful degradation เมื่อบริการภายนอกล้มเหลว
- Error messages ต้องไม่เปิดเผยข้อมูล sensitive
- 6.6.3 Input Validation:
- ต้องมี input validation ทั้งฝั่ง client และ server (defense in depth)
- ต้องป้องกัน OWASP Top 10 vulnerabilities:
- SQL Injection (ใช้ parameterized queries ผ่าน ORM)
- XSS (input sanitization และ output encoding)
- CSRF (CSRF tokens สำหรับ state-changing operations)
- ต้อง validate file uploads:
- File type (white-list approach)
- File size
- File content (magic number verification)
- ต้อง sanitize user inputs ก่อนแสดงผลใน UI
- ต้องใช้ content security policy (CSP) headers
- ต้องมี request size limits เพื่อป้องกัน DoS attacks
- 6.6.4 Session และ Token Management:
- **JWT token expiration:** 8 hours สำหรับ access token
- **Refresh token expiration:** 7 days
- **Refresh token mechanism:** ต้องรองรับ token rotation และ revocation
- **Token revocation on logout:** ต้องบันทึก revoked tokens จนกว่าจะ expire
- **Concurrent session management:**
- จำกัดจำนวน session พร้อมกันได้ (default: 5 devices)
- ต้องแจ้งเตือนเมื่อมี login จาก device/location ใหม่
- **Device fingerprinting:** สำหรับ security และ audit purposes
- **Password policy:**
- ความยาวขั้นต่ำ: 8 characters
- ต้องมี uppercase, lowercase, number, special character
- ต้องเปลี่ยน password ทุก 90 วัน
- ต้องป้องกันการใช้ password ที่เคยใช้มาแล้ว 5 ครั้งล่าสุด
- **6.6.1 Rate Limiting Strategy:**
- **Anonymous Endpoints:** 100 requests/hour ต่อ IP address
- **Authenticated Endpoints:**
- Viewer: 500 requests/hour
- Editor: 1000 requests/hour
- Document Control: 2000 requests/hour
- Admin/Superadmin: 5000 requests/hour
- **File Upload Endpoints:** 50 requests/hour ต่อ user
- **Search Endpoints:** 500 requests/hour ต่อ user
- **Authentication Endpoints:** 10 requests/minute ต่อ IP address
- **ต้องมี mechanism สำหรับยกเว้น rate limiting สำหรับ trusted services**
- ต้องบันทึก log เมื่อมีการ trigger rate limiting
- **6.6.2 Error Handling และ Resilience:**
- ต้องมี circuit breaker pattern สำหรับ external service calls
- ต้องมี retry mechanism ด้วย exponential backoff
- ต้องมี graceful degradation เมื่อบริการภายนอกล้มเหลว
- Error messages ต้องไม่เปิดเผยข้อมูล sensitive
- **6.6.3 Input Validation:**
- ต้องมี input validation ทั้งฝั่ง client และ server (defense in depth)
- ต้องป้องกัน OWASP Top 10 vulnerabilities:
- SQL Injection (ใช้ parameterized queries ผ่าน ORM)
- XSS (input sanitization และ output encoding)
- CSRF (CSRF tokens สำหรับ state-changing operations)
- ต้อง validate file uploads:
- File type (white-list approach)
- File size
- File content (magic number verification)
- ต้อง sanitize user inputs ก่อนแสดงผลใน UI
- ต้องใช้ content security policy (CSP) headers
- ต้องมี request size limits เพื่อป้องกัน DoS attacks
- **6.6.4 Session และ Token Management:**
- **JWT token expiration:** 8 hours สำหรับ access token
- **Refresh token expiration:** 7 days
- **Refresh token mechanism:** ต้องรองรับ token rotation และ revocation
- **Token revocation on logout:** ต้องบันทึก revoked tokens จนกว่าจะ expire
- **Concurrent session management:**
- จำกัดจำนวน session พร้อมกันได้ (default: 5 devices)
- ต้องแจ้งเตือนเมื่อมี login จาก device/location ใหม่
- **Device fingerprinting:** สำหรับ security และ audit purposes
- **Password policy:**
- ความยาวขั้นต่ำ: 8 characters
- ต้องมี uppercase, lowercase, number, special character
- ต้องเปลี่ยน password ทุก 90 วัน
- ต้องป้องกันการใช้ password ที่เคยใช้มาแล้ว 5 ครั้งล่าสุด
### **6.7. การสำรองข้อมูลและการกู้คืน (Backup & Recovery):**
### 6.7. การสำรองข้อมูลและการกู้คืน (Backup & Recovery)
- ระบบจะต้องมีกลไกการสำรองข้อมูลอัตโนมัติสำหรับฐานข้อมูล MariaDB [cite: 2.4] และไฟล์เอกสารทั้งหมดใน /share/dms-data [cite: 2.1] (เช่น ใช้ HBS 3 ของ QNAP หรือสคริปต์สำรองข้อมูล) อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- ต้องมีแผนการกู้คืนระบบ (Disaster Recovery Plan) ในกรณีที่ Server หลัก (QNAP) ใช้งานไม่ได้
- **6.7.1 ขั้นตอนการกู้คืน:**
- 6.7.1 ขั้นตอนการกู้คืน:
- **Database Restoration Procedure:**
- สร้างจาก full backup ล่าสุด
- Apply transaction logs ถึง point-in-time ที่ต้องการ
@@ -586,18 +670,16 @@
- **Recovery Time Objective (RTO):** < 4 ชั่วโมง
- **Recovery Point Objective (RPO):** < 1 ชั่วโมง
### **6.8. กลยุทธ์การแจ้งเตือน (Notification Strategy - ปรับปรุง):**
- **6.8.1 ระบบจะส่งการแจ้งเตือน (ผ่าน Email หรือ Line [cite: 2.7]) เมื่อมีการกระทำที่สำคัญ** ดังนี้:
### 6.8. กลยุทธ์การแจ้งเตือน (Notification Strategy - ปรับปรุง)
- 6.8.1 ระบบจะส่งการแจ้งเตือน (ผ่าน Email หรือ Line [cite: 2.7]) เมื่อมีการกระทำที่สำคัญ\*\* ดังนี้:
1. เมื่อมีเอกสารใหม่ (Correspondence, RFA) ถูกส่งมาถึงองค์กรณ์ของเรา
2. เมื่อมีใบเวียน (Circulation) ใหม่ มอบหมายงานมาที่เรา
3. (ทางเลือก) เมื่อเอกสารที่เราส่งไป ถูกดำเนินการ (เช่น อนุมัติ/ปฏิเสธ)
4. (ทางเลือก) เมื่อใกล้ถึงวันครบกำหนด (Deadline) [cite: 3.2.5, 3.6.6, 3.7.5]
- **6.8.2 Grouping/Digest (ใหม่):** กรณีมีการแจ้งเตือนประเภทเดียวกันจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ (เช่น Approve เอกสาร 10 ฉบับรวด) ระบบต้อง **รวม (Batch)** เป็น 1 Email/Line Notification เพื่อไม่ให้รบกวนผู้ใช้ (Spamming)
- **6.8.3 Notification Delivery Guarantees:**
- 6.8.2 Grouping/Digest (ใหม่)
- กรณีมีการแจ้งเตือนประเภทเดียวกันจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ (เช่น Approve เอกสาร 10 ฉบับรวด) ระบบต้อง **รวม (Batch)** เป็น 1 Email/Line Notification เพื่อไม่ให้รบกวนผู้ใช้ (Spamming)
- 6.8.3 Notification Delivery Guarantees
- **At-least-once delivery:** สำหรับ important notifications
- **Retry mechanism:** ด้วย exponential backoff (max 3 reties)
- **Dead letter queue:** สำหรับ notifications ที่ส่งไม่สำเร็จหลังจาก retries
@@ -613,19 +695,19 @@
### **6.10. Monitoring และ Observability**
- **6.10.1 Application Monitoring:**
- 6.10.1 Application Monitoring
- **Health checks:** /health endpoint สำหรับ load balancer
- **Metrics collection:** Response times, error rates, throughput
- **Distributed tracing:** สำหรับ request tracing across services
- **Log aggregation:** Structured logging ด้วย JSON format
- **Alerting:** สำหรับ critical errors และ performance degradation
- **6.10.2 Business Metrics:**
- 6.10.2 Business Metrics
- จำนวน documents created ต่อวัน
- Workflow completion rates
- User activity metrics
- System utilization rates
- Search query performance
- **6.10.3 Security Monitoring:**
- 6.10.3 Security Monitoring
- Failed login attempts
- Rate limiting triggers
- Virus scan results
@@ -634,63 +716,70 @@
### **6.11 JSON Processing & Validation**
- **6.11.1 JSON Schema Management**
- 6.11.1 JSON Schema Management
- ต้องมี centralized JSON schema registry
- ต้องรองรับ schema versioning และ migration
- ต้องมี schema validation during runtime
- **6.11.2 Performance Optimization**
- 6.11.2 Performance Optimization
- **Caching:** Cache parsed JSON structures
- **Compression:** ใช้ compression สำหรับ JSON ขนาดใหญ่
- **Indexing:** Support JSON path indexing สำหรับ query
- **6.11.3 Error Handling**
- 6.11.3 Error Handling
- ต้องมี graceful degradation เมื่อ JSON validation ล้มเหลว
- ต้องมี default fallback values
- ต้องบันทึก error logs สำหรับ validation failures
## **🧪 7. ข้อกำหนดด้านการทดสอบ (Testing Requirements)**
### **7.1. Unit Testing:**
### 7.1 Unit Testing
- ต้องมี unit tests สำหรับ business logic ทั้งหมด
- Code coverage อย่างน้อย 70% สำหรับ backend services
- Business Logic: 80%+
- Controllers: 70%+
- Utilities: 90%+
- ต้องทดสอบ RBAC permission logic ทุกระดับ
### **7.2. Integration Testing:**
### 7.2 Integration Testing
- ทดสอบการทำงานร่วมกันของ modules
- ทดสอบ database migrations และ data integrity
- ทดสอบ API endpoints ด้วย realistic data
### **7.3. End-to-End Testing:**
### 7.3 End-to-End Testing
- ทดสอบ complete user workflows
- ทดสอบ document lifecycle จาก creation ถึง archival
- ทดสอบ cross-module integrations
### **7.4. Security Testing:**
### 7.4 Security Testing
- **Penetration Testing:** ทดสอบ OWASP Top 10 vulnerabilities
- **Security Audit:** Review code สำหรับ security flaws
- **Virus Scanning Test:** ทดสอบ file upload security
- **Rate Limiting Test:** ทดสอบ rate limiting functionality
- Penetration Testing: ทดสอบ OWASP Top 10 vulnerabilities
- Security Audit: Review code สำหรับ security flaws
- Virus Scanning Test: ทดสอบ file upload security
- Rate Limiting Test: ทดสอบ rate limiting functionality
### **7.5. Performance Testing:**
### 7.5. Performance Testing
- **Load Testing:** ทดสอบด้วย realistic workloads
- **Stress Testing:** หา breaking points ของระบบ
- **Endurance Testing:** ทดสอบการทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- Penetration Testing: ทดสอบ OWASP Top 10 vulnerabilities
- Security Audit: Review code สำหรับ security flaws
- Virus Scanning Test: ทดสอบ file upload security
- **Rate Limiting Test:** ทดสอบ rate limiting functionality
- **Load Testing:** ทดสอบด้วย realistic workloads
- **Stress Testing:** หา breaking points ของระบบ
- **Endurance Testing:** ทดสอบการทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
### **7.6. Disaster Recovery Testing:**
### 7.6. Disaster Recovery Testing
- ทดสอบ backup และ restoration procedures
- ทดสอบ failover mechanisms
- ทดสอบ data integrity หลังการ recovery
### **7.7 Specific Scenario Testing (เพิ่ม)**
### 7.7 Specific Scenario Testing (เพิ่ม)
- **Race Condition Test:** ทดสอบยิง Request ขอเลขที่เอกสารพร้อมกัน 100 Request
- **Transaction Test:** ทดสอบปิดเน็ตระหว่าง Upload ไฟล์ (ตรวจสอบว่าไม่มี Orphan File หรือ Broken Link)
- **Permission Test:** ทดสอบ CASL Integration ทั้งฝั่ง Backend และ Frontend ให้ตรงกัน
- **Transaction Test:** ทดสอบปิดเน็ตระหว่าง Upload ไฟล์ (ตรวจสอบว่าไม่มี Orphan File หรือ Broken Link)
- **Permission Test:** ทดสอบ CASL Integration ทั้งฝั่ง Backend และ Frontend ให้ตรงกัน
## **8. ข้อกำหนดด้านการบำรุงรักษา (Maintenance Requirements)**
@@ -738,56 +827,6 @@
- ต้องมี security incident response plan
- ต้องมี regular security assessments
## **📋 สรุปการปรับปรุงจากเวอร์ชันก่อนหน้า**
### **Security Enhancements:**
1. **File Upload Security** - Virus scanning, file type validation, access controls
2. **Input Validation** - OWASP Top 10 protection, XSS/CSRF prevention
3. **Rate Limiting** - Comprehensive rate limiting strategy
4. **Secrets Management** - Secure handling of sensitive configuration
### **Architecture Improvements:**
1. **Document Numbering** - Changed from Stored Procedure to Application-level Locking with Optimistic Locking safety net
2. **Resilience Patterns** - Circuit breaker, retry mechanisms, fallback strategies
3. **Monitoring & Observability** - Health checks, metrics, distributed tracing
4. **Caching Strategy** - Comprehensive caching with proper invalidation
5. **Two-Phase File Storage** - Temp -> Permanent storage with transaction safety
6. **Unified Workflow Engine** - Consolidated routing logic for better maintainability
### **Performance Targets:**
1. **API Response Time** - < 200ms (90th percentile)
2. **Search Performance** - < 500ms
3. **File Upload** - < 30 seconds for 50MB files
4. **Cache Hit Ratio** - > 80%
### **Operational Excellence:**
1. **Disaster Recovery** - RTO < 4 hours, RPO < 1 hour
2. **Backup Procedures** - Comprehensive backup and restoration
3. **Security Testing** - Penetration testing and security audits
4. **Performance Testing** - Load testing with realistic workloads
5. **Maintenance Mode** - Graceful system maintenance capabilities
### **User Experience Improvements:**
1. **Dynamic Form Generator** - Reduced code duplication and better schema support
2. **Mobile Responsiveness** - Card view for tables on mobile devices
3. **Auto-Save Draft** - LocalStorage integration for form resilience
4. **Notification Digest** - Reduced notification spam
### **Data Management:**
1. **Virtual Columns** - Improved JSON field search performance
2. **Table Partitioning** - Support for large-scale data growth
3. **Idempotency Keys** - Prevention of duplicate transactions
เอกสารนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างระบบที่มีความปลอดภัย, มีความทนทาน, และมีประสิทธิภาพสูง พร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตและความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
**หมายเหตุ:** Requirements นี้จะถูกทบทวนและปรับปรุงเป็นระยะตาม feedback จากทีมพัฒนาและความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
## **Document Control:**
- **Document:** Application Requirements Specification v1.4.5